ความสำคัญของการต่อภาษีรถยนต์
การต่อภาษีรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี หรือการต่อทะเบียนรถยนต์ มีความจำเป็นเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังช่วยให้หน่วยงานขนส่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเจ้าของรถป้ายแดงจำเป็นต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือลงโทษ
ถ้าไม่ต่อภาษีจะเป็นอย่างไร?
เสียค่าปรับ: การต่อภาษีรถยนต์สามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนทะเบียนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน หากล่าช้าจะต้องเสียค่าปรับ 1% ของภาษีรถยนต์ต่อเดือน ซึ่งหากปล่อยไว้นานค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถูกระงับทะเบียน: หากไม่ได้ต่อทะเบียนรถเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที หากต้องการใช้รถคันเดิมต้องจดทะเบียนใหม่และชำระภาษีย้อนหลัง
เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะ: นอกจากค่าปรับแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าตรวจสภาพรถ ค่าป้ายใหม่ และค่าใช้จ่ายในการเตรียมเอกสารเพิ่มเติม
เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เจ้าของรถควรต่อภาษีรถยนต์เป็นประจำทุกปี
การต่อภาษีรถยนต์ต้องทำอย่างไร?
เอกสารที่ต้องเตรียม:
สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
เอกสาร พ.ร.บ. รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ
ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป)
เงินสำหรับอัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ. รถยนต์
การต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
การต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) มีความสำคัญมากในการต่อภาษีรถยนต์ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี:
กรณีที่ 1: รถใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี สามารถนำสำเนาทะเบียนรถหรือเล่มจริงและสำเนาบัตรประชาชนไปซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ได้ที่บริษัทตัวแทนจำหน่ายประกันภัยหรือธนาคารต่าง ๆ
กรณีที่ 2: รถที่มีอายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถก่อน โดยสามารถตรวจได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) หรือที่กรมขนส่งทางบกทุกแห่ง
อัตราค่าเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์
รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน: 600 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คนไม่เกิน 15 ที่นั่ง: 1,100 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 15 ที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง: 2,050 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 20 ที่นั่งไม่เกิน 40 ที่นั่ง: 3,200 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 40 ที่นั่ง: 3,740 บาท/ปี
รถยนต์ไฟฟ้า: 600 บาท/ปี
สรุป
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ที่เจ้าของรถทุกคนต้องปฏิบัติเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ เจ้าของรถมือใหม่ควรตรวจเช็กช่วงเวลาในการต่อภาษีให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับย้อนหลัง และเพลิดเพลินกับการขับขี่ภายใต้กฎหมายจราจร
ความสำคัญของการต่อภาษีรถยนต์
การต่อภาษีรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องทำ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี หรือการต่อทะเบียนรถยนต์ มีความจำเป็นเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังช่วยให้หน่วยงานขนส่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเจ้าของรถป้ายแดงจำเป็นต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือลงโทษ
ถ้าไม่ต่อภาษีจะเป็นอย่างไร?
เสียค่าปรับ: การต่อภาษีรถยนต์สามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนทะเบียนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน หากล่าช้าจะต้องเสียค่าปรับ 1% ของภาษีรถยนต์ต่อเดือน ซึ่งหากปล่อยไว้นานค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถูกระงับทะเบียน: หากไม่ได้ต่อทะเบียนรถเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที หากต้องการใช้รถคันเดิมต้องจดทะเบียนใหม่และชำระภาษีย้อนหลัง
เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะ: นอกจากค่าปรับแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าตรวจสภาพรถ ค่าป้ายใหม่ และค่าใช้จ่ายในการเตรียมเอกสารเพิ่มเติม
เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เจ้าของรถควรต่อภาษีรถยนต์เป็นประจำทุกปี
การต่อภาษีรถยนต์ต้องทำอย่างไร?
เอกสารที่ต้องเตรียม:
สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
เอกสาร พ.ร.บ. รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ
ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป)
เงินสำหรับอัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ. รถยนต์
การต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
การต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) มีความสำคัญมากในการต่อภาษีรถยนต์ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี:
กรณีที่ 1: รถใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี สามารถนำสำเนาทะเบียนรถหรือเล่มจริงและสำเนาบัตรประชาชนไปซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ได้ที่บริษัทตัวแทนจำหน่ายประกันภัยหรือธนาคารต่าง ๆ
กรณีที่ 2: รถที่มีอายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถก่อน โดยสามารถตรวจได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) หรือที่กรมขนส่งทางบกทุกแห่ง
อัตราค่าเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์
รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน: 600 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คนไม่เกิน 15 ที่นั่ง: 1,100 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 15 ที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง: 2,050 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 20 ที่นั่งไม่เกิน 40 ที่นั่ง: 3,200 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 40 ที่นั่ง: 3,740 บาท/ปี
รถยนต์ไฟฟ้า: 600 บาท/ปี
สรุป
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ที่เจ้าของรถทุกคนต้องปฏิบัติเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ เจ้าของรถมือใหม่ควรตรวจเช็กช่วงเวลาในการต่อภาษีให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับย้อนหลัง และเพลิดเพลินกับการขับขี่ภายใต้กฎหมายจราจร หากอยากรู้ว่าการรีไฟแนนซ์รถต้องทำอย่างไร สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/auto-loan/3-things-car-refinance